เฟิร์มแวร์ Z 6

• บริการนี้มีซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้เพื่ออัพเดทเฟิร์มแวร์กล้อง Z 6 “C” ไปเป็นเวอร์ชั่น 3.60 ได้ ก่อนดำเนินการ ให้เลือก [รุ่นเฟิร์มแวร์] ใน [เมนูตั้งค่า] ของกล้อง แล้วตรวจสอบเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ของกล้อง คุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งอัพเดทนี้หากติดตั้งเฟิร์มแวร์ที่ระบุในรายการข้างต้นแล้ว • การอัพเดทนี้ครอบคลุมถึงการอัพเดทก่อนหน้านี้ทั้งหมด • การอัพเดทจากเฟิร์มแวร์รุ่น 2.10 หรือก่อนหน้าจำเป็นต้องใช้การ์ดหน่วยความจำ XQD และตัวอ่านการ์ด การอัพเดทจากเฟิร์มแวร์รุ่น 2.20 หรือใหม่กว่าสามารถทำได้โดยใช้การ์ดหน่วยความจำ XQD และตัวอ่านการ์ดหรือตัวอ่านการ์ด CFexpress และการ์ดหน่วยความจำ CFexpress ที่ได้รับการรับรองการใช้งานกับเฟิร์มแวร์รุ่นปัจจุบัน • อ่านข้อมูลด้านล่างก่อนดำเนินการ

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.50 ไปยัง 3.60

• เพิ่มการรองรับสำหรับรีโมตกริป MC-N10

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นที่ผ่านมา

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.40 ไปยัง 3.50

• เพิ่มตัวเลือก [บันทึกตำแหน่งของจุดโฟกัส] และ [เรียกคืนตำแหน่งของจุดโฟกัส] ในหน้าที่ที่สามารถกำหนดโดยใช้การตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 [กำหนดการควบคุมเอง] ใน [เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง] ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2022 ตัวเลือกเหล่านี้มีการรองรับจากเลนส์ต่อไปนี้: - NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S - NIKKOR Z 100-400mm f/4.5-5.6 VR S - NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S - NIKKOR Z 400mm f/4.5 VR S - NIKKOR Z 800mm f/6.3 VR S • การทำงานของโฟกัสอัตโนมัติระหว่างการเรียกคืนหน่วยความจำได้รับการปรับปรุงเพื่อให้แน่ใจว่าตำแหน่งโฟกัสจะไม่เปลี่ยนแปลงในโหมดโฟกัสใดๆ แม้ว่าจะกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งในขณะที่กำลังเรียกคืนโฟกัส • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้แล้ว: - การตั้งค่าที่เลือกไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 [กำหนดการควบคุมเอง] ใน [เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง] บางครั้งอาจไม่ทำงานตามที่คาดไว้ในโหมดตั้งค่าผู้ใช้ - การตั้งค่าที่เลือกไว้สำหรับ [การควบคุมแฟลช] > [ตัวเลือกการใช้แฟลชไร้สาย] ใน [เมนูถ่ายภาพ] บางครั้งอาจเปลี่ยนจาก [AWL แบบออพติคอล/ใช้คลื่นวิทยุ] เป็น [AWL แบบออพติคอล] เมื่อใช้ชุดแฟลช SB-500 กับรีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.31 ไปยัง 3.40

• เพิ่มการรองรับสำหรับ: - เมาท์อะแดปเตอร์ FTZ II, - เลนส์ NIKKOR Z 24-120mm f/4 S, - เลนส์ NIKKOR Z 28-75mm f/2.8 และ - เลนส์ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S • หน้าจอมีโอกาสที่จะเกิดการกะพริบถี่น้อยลงระหว่างการถ่ายภาพยนตร์เมื่อบันทึกส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ N-Log หรือ RAW ไปยังเครื่องบันทึกวิดีโอ HDMI ภายนอกที่ระดับแสงน้อย • ปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจจับดวงตาสำหรับ AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ • เพิ่มอัตรารีเฟรชสำหรับจุดโฟกัสที่แสดงระหว่าง AF ตรวจจับใบหน้า/ดวงตาและติดตามวัตถุ • ปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจจับใบหน้า/ดวงตาและความชัดเจนของวัตถุในภาพที่ถ่ายโดยใช้ชุดแฟลชเสริมภายนอก • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้: - บางครั้งกล้องหยุดตอบสนองเมื่อเลือก อัตโนมัติ ไว้สำหรับ ตั้งค่า Picture Control ใน เมนูถ่ายภาพ - บางครั้งกล้องอาจใช้ค่าเกินค่าที่เลือกไว้สำหรับ ตั้งค่าความไวแสง (ISO) > ความไวแสงสูงสุด ใน เมนูถ่ายภาพยนตร์

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.30 ไปยัง 3.31

• เพิ่มการรองรับสำหรับเลนส์ NIKKOR Z MC 50mm f/2.8 และ NIKKOR Z MC 105mm f/2.8 VR S • แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากอัปเดตเฟิร์มแวร์ของกล้องเป็นรุ่น 3.30 ซึ่งบางครั้งจะขยายเสียงที่เกิดจากกลไกของรูรับแสงเมื่อหมุนวงแหวนปรับระยะซูมหรือวงแหวนปรับโฟกัสบนเลนส์ F เมาท์บางตัวที่เชื่อมต่อผ่านเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.20 ไปยัง 3.30

• เพิ่มตัวเลือก บันทึกตำแหน่งของจุดโฟกัส ลงใน เมนูตั้งค่า หากเลือก เปิด ไว้ ตำแหน่งโฟกัสที่ใช้เมื่อปิดกล้องจะถูกเรียกคืนเมื่อเปิดกล้องครั้งต่อไป ตัวเลือกนี้จะใช้เฉพาะเมื่อใช้กล้องกับเลนส์โฟกัสอัตโนมัติ Z เมาท์ • เพิ่มตัวเลือก ข้อความเสียง ให้กับการทำงานที่สามารถกำหนดให้กับ ปุ่มบันทึกภาพยนตร์ ผ่านการตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 (กำหนดการควบคุมเอง) ในการทำงาน ข้อความเสียง สามารถใช้ปุ่มบันทึกภาพยนตร์เพื่อบันทึกและเล่นข้อความเสียงได้ยาวที่สุดประมาณ 60 วินาทีในขณะที่แสดงภาพ • แก้ไขปัญหาที่บางครั้งทำให้กล้องหยุดตอบสนองเมื่อการบันทึกภาพยนตร์เหลื่อมเวลาหยุดกลางคัน

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.12 ไปยัง 3.20

• รองรับการส่งสัญญาณวิดีโอ RAW ผ่านการอัปเกรดที่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ * และเฟิร์มแวร์รุ่น 3.20 จะเพิ่มการรองรับภายใต้บริการนี้สำหรับเครื่องบันทึกวิดีโอภายนอก Blackmagic Design (ปัจจุบันคือ Video Assist 5″ 12G HDR และ Video Assist 7″ 12G HDR) หากท่านซื้อการอัปเกรดการส่งสัญญาณวิดีโอ RAW สำหรับกล้องของท่านแล้ว การอัปเดตเป็นเฟิร์มแวร์รุ่น 3.20 จะเพิ่มการรองรับเครื่องบันทึกวิดีโอภายนอก Blackmagic Design โดยอัตโนมัติ • ผู้ใช้ Final Cut Pro X (รุ่น 10.4.9 หรือใหม่กว่า) ของ Apple สามารถปรับค่าความไวแสง (ISO) และแสดงและปรับอุณหภูมิสีสำหรับส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ProRes RAW ที่ส่งไปยังเครื่องบันทึกภายนอก ATOMOS NINJA V โดยใช้การอัปเกรดการส่งสัญญาณวิดีโอ RAW ที่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ * < การเลือกประเภทการส่งสัญญาณ RAW > ก่อนการถ่ายภาพยนตร์วิดีโอ RAW ให้เลือกตัวเลือกสำหรับ HDMI > ขั้นสูง > RAW output options > RAW output type ใน เมนูตั้งค่า ตามประเภทของเครื่องบันทึกที่เชื่อมต่ออยู่: เลือก Type A สำหรับเครื่องบันทึก NINJA V และ Type B สำหรับเครื่องบันทึก Video Assist • เพิ่มการรองรับสำหรับเลนส์ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้: - บางครั้งการหมุนวงแหวนปรับโฟกัสหรือ (หากกำหนด โฟกัส (M/A) ให้กับวงแหวนควบคุม) วงแหวนควบคุมอาจไม่สามารถเปิดใช้งานแมนวลโฟกัสได้ระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นชุดเมื่อติดตั้งเลนส์ NIKKOR Z - สัญลักษณ์แสดงค่าแสงจะไม่แสดงในโหมด M เมื่อติดตั้งเลนส์ที่ไม่มี CPU ผ่านเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ - ไม่สามารถเลือกค่ารูรับแสงบางค่าได้เมื่อหมุนวงแหวนควบคุมสำหรับเลนส์ต่อไปนี้เพื่อหยุดค่ารูรับแสงในโหมดภาพยนตร์: ▹ NIKKOR Z 24-50mm f/4-6.3 ▹ NIKKOR Z 24-200mm f/4-6.3 VR ▹ NIKKOR Z DX 16-50mm f/3.5-6.3 VR ▹ NIKKOR Z DX 50-250mm f/4.5-6.3 VR • บางครั้งอาจแสดงค่ารูรับแสงที่ไม่คาดคิดขึ้นระหว่างการถ่ายคร่อมในโหมด M หากเลือกตัวเลือกการถ่ายคร่อมที่เปลี่ยนแปลงรูรับแสงเมื่อติดตั้งเลนส์ NIKKOR Z • บางครั้งการควบคุมรูรับแสงด้วยไฟฟ้าจะหยุดตอบสนองหลังจากเปิดการตั้งเวลาสแตนด์บายเป็นระยะเวลานานในโหมดภาพยนตร์ * สามารถรับการอัปเกรดการส่งสัญญาณวิดีโอ RAW ได้โดยมีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อตัวแทนบริการของ Nikon ที่ได้รับการแต่งตั้ง

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.11 ไปยัง 3.12

• แก้ไขปัญหาของเฟิร์มแวร์รุ่น 3.10 และ 3.11 โดยค่าการปรับอย่างละเอียดที่เลือกไว้สำหรับ ปรับ AF อย่างละเอียด > ค่าที่บันทึกไว้ จะไม่ถูกนำไปใช้อย่างถูกต้องเมื่อถ่ายภาพ

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.10 ไปยัง 3.11

• แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อใช้กล้องกับชุดแบตเตอรี่ MB-N10 ที่ใส่แบตเตอรี่ไว้สองก้อนและมี EN-EL15 หรือ EN-EL15a อยู่ในช่องบรรจุ A กล่าวคือบางครั้งกล้องอาจไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ในช่องบรรจุ B ได้เมื่อแบตเตอรี่ในช่องบรรจุ A หมด

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 3.00 ไปยัง 3.10

• เพิ่มการรองรับสำหรับเทเลคอนเวอร์เตอร์ Nikon Z เมาท์ TC-1.4x/TC-2.0x • เพิ่มการรองรับสำหรับการอัพเดทเฟิร์มแวร์เลนส์ F เมาท์ รองรับการอัพเดทเฟิร์มแวร์เลนส์ F เมาท์จากเฟิร์มแวร์เมาท์อะแดปเตอร์ FTZ รุ่น 1.10 • เปลี่ยนค่ารูรับแสงบางส่วนที่แสดงเมื่อปรับค่าแสงครั้งละ 1/3 EV (ขณะนี้ f/1.2 แสดงเป็น f/1.3) ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2020 โดยมีผลกับเลนส์ NIKKOR Z 58mm f/0.95 S Noct • ขณะนี้ระดับการเพิ่มสำหรับการถ่ายคร่อมถูกนำไปใช้อย่างเหมาะสมกับภาพที่ถ่ายโดยใช้การล็อคค่าแสงระหว่าง ถ่ายคร่อม AE ในโหมดลั่นชัตเตอร์ ถ่ายต่อเนื่องเร็ว (เพิ่มจำนวนภาพ) • เมื่อเชื่อมต่อเครื่องบันทึกภายนอกที่สอดคล้องกับ Atomos Open Protocol การบันทึกภาพยนตร์จะสามารถเริ่มต้นและหยุดได้โดยใช้ปุ่มควบคุมกล้องหากตรงตามเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้: - กล้องอยู่ในโหมดภาพยนตร์และเชื่อมต่อเครื่องบันทึกผ่าน HDMI - ใส่การ์ดหน่วยความจำอยู่ - เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ไว้สำหรับ HDMI > ขั้นสูง ใน เมนูตั้งค่า: ▹ ควบคุมการบันทึกของอุปกรณ์ภายนอก > เปิด ▹ ความละเอียดของสัญญาณ > 10 บิท ▹ การตั้งค่า N-Log > ปิด - เลือก 3840x2160; 30p/25p/24p ไว้สำหรับ ขนาดเฟรม/อัตราเฟรม ใน เมนูถ่ายภาพยนตร์ • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้: - จอภาพของกล้องจะแสดงเป็นโทนสีเขียวเมื่อเชื่อมต่อกล้องกับจอแสดงผลภายนอกผ่าน HDMI หาก: ▹ เลือก Adobe RGB ไว้สำหรับ พื้นที่สี ใน เมนูถ่ายภาพ ▹ เลือก ปุ่มกดชัตเตอร์ > บันทึกภาพยนตร์ ไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง g2 (กำหนดการควบคุมเอง) ในกลุ่ม “g” (ภาพยนตร์) ของ เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง ▹ เลือก 10 บิท ไว้สำหรับ HDMI > ขั้นสูง > ความละเอียดของสัญญาณ ใน เมนูตั้งค่า ▹ เลือก เปิด (ไม่สามารถบันทึกลงการ์ด) ไว้สำหรับ HDMI > ขั้นสูง > การตั้งค่า N-Log ใน เมนูตั้งค่า ▹ เลือก เปิด ไว้สำหรับ HDMI > ขั้นสูง > ดูข้อมูลดิบ ใน เมนูตั้งค่า และ ▹ เลือกโหมดภาพยนตร์ไว้ด้วยตัวเลือกการถ่ายภาพ/ภาพยนตร์ - การตัดครอบที่เลือกไว้สำหรับภาพ “แนวตั้ง” (ทิศทางภาพบุคคล) โดยใช้ PictBridge จะแสดงได้ไม่ถูกต้องในภาพที่พิมพ์ออกมา - โฟกัสอัตโนมัติจะไม่ทำงานหากเลนส์ NIKKOR Z DX 16–50mm f/3.5–6.3 VR ยืดออกในเวลาเดียวกับที่เปิดกล้อง ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อย

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 2.20 ไปยัง 3.00

• เพิ่มการรองรับการ์ดหน่วยความจำ ProGrade และ Lexar CFexpress (ชนิด B) และยืนยันการทำงานด้วยการ์ดหน่วยความจำ SanDisk CFexpress (ชนิด B) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเว็บไซต์ Nikon ในประเทศหรือภูมิภาคของท่าน • การตั้งค่าแบบกำหนดเอง a4 (หาหน้า/ตาขณะ AF พื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ) ขณะนี้มีตัวเลือก ระบบหาสัตว์ ซึ่งเพิ่มสุนัขและแมวเป็นวัตถุที่รองรับโดยโฟกัสอัตโนมัติหาใบหน้าและดวงตา เป็นผลให้กล้องสามารถตรวจจับและโฟกัสไปที่ใบหน้าและดวงตาของสุนัขและแมวได้ ระบบหาใบหน้าสัตว์ (แต่ไม่ใช่การหาดวงตา) สามารถใช้ได้ในโหมดภาพยนตร์ •ปรับปรุงการทำงานของ AF ติดตามวัตถุ (สามารถใช้ได้เมื่อเลือก AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ ไว้สำหรับ โหมดพื้นที่ AF) ดังนี้: - ขณะนี้ AF ติดตามวัตถุสามารถเริ่มได้ด้วยปุ่ม Fn1 หรือ Fn2 บนกล้องหรือปุ่ม Fn1 หรือ Fn2 บนเลนส์ ต้องกำหนด AF ติดตามวัตถุให้กับปุ่มควบคุมก่อนโดยใช้การตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 (กำหนดการควบคุมเอง) ในกลุ่ม f (การควบคุม) ของ เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง หรือการตั้งค่าแบบกำหนดเอง g2 (กำหนดการควบคุมเอง) - เมื่อเลือก AF-C (โฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง) ไว้ในโหมดถ่ายภาพ การทำงานของ AF ติดตามวัตถุจะเปลี่ยนไปดังนี้: หาก AF ติดตามวัตถุเริ่มต้นโดยการกดปุ่ม AF-ON หรือโดยการกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง การปล่อยปุ่มจะเป็นการสิ้นสุดการติดตาม การสิ้นสุดการติดตามโดยการปล่อยปุ่มจะคืนค่าจุดโฟกัสที่ใช้งานอยู่ก่อนที่การติดตามจะเริ่มขึ้น จุดประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงนี้คือการเลียนแบบลักษณะของกล้องดิจิตอล SLR เมื่อเลือก ติดตามระยะโฟกัส 3 มิติ ไว้ • การตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 (กำหนดการควบคุมเอง) ในกลุ่ม f (การควบคุม) ของ เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง ขณะนี้มีตัวเลือก ปุ่ม Fn2 บนเลนส์ ซึ่งสามารถใช้เพื่อเลือกหน้าที่ของปุ่ม Fn2 บนเลนส์ที่มีในเลนส์ Z เมาท์บางรุ่น (ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2020 เฉพาะ NIKKOR Z 70–200mm f/2.8 VR S เท่านั้น) • เพิ่มการรองรับสำหรับสวิทช์จำกัดการโฟกัสที่มีในเลนส์ Z เมาท์บางรุ่น (ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2020 เฉพาะ NIKKOR Z 70–200mm f/2.8 VR S เท่านั้น) • ปรับการตอบสนองของการสลับไปเป็นแมนวลโฟกัสให้เหมาะสมเมื่อหมุนวงแหวนโฟกัสหรือวงแหวนควบคุมบนเลนส์ Z เมาท์ระหว่างการโฟกัสอัตโนมัติ โปรดทราบว่าวงแหวนควบคุมจะทำงานในลักษณะนี้เฉพาะเมื่อกำหนดหน้าที่เป็น โฟกัส (M/A) • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้แล้ว: - เมื่อปรับ ความสว่างของช่องมองภาพ ด้วยตนเอง บางครั้งความสว่างจะเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มการตั้งเวลาสแตนด์บายใหม่ - อุปกรณ์ iOS ที่ใช้ iOS 13 บางครั้งจะแสดงคำขอการจับคู่บลูทูธเมื่อการจับคู่เสร็จสิ้นแล้ว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการใช้งานสำหรับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่รวมอยู่ในไดรเวอร์ NVM Express ของกล้อง โปรดดูที่ “BSD License (NVM Express Driver)”

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 2.10 ไปยัง 2.20

• เพิ่มการรองรับสำหรับการ์ดหน่วยความจำ Sony CFexpress ชนิด B สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการใช้งานสำหรับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่รวมอยู่ในไดรเวอร์ NVM Express ของกล้อง โปรดดูที่ “BSD License (NVM Express Driver)” • เพิ่มการรองรับการควบคุมความผิดเพี้ยนด้วยเลนส์ F เมาท์ AF-S NIKKOR 120–300mm f/2.8E FL ED SR VR • แก้ไขปัญหาที่ทำให้มีเส้นสีปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของจอแสดงผลเมื่อดูภาพที่ถ่ายในโหมดตัวอย่างโดยเลือก FX (36x24) ไว้สำหรับพื้นที่ภาพที่อัตราการซูมมากกว่า 100%

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 2.01 ไปยัง 2.10

• เพิ่มการรองรับสำหรับ VR แบบออพติคอลด้วยเลนส์ Z เมาท์ NIKKOR Z DX 16–50mm f/3.5–6.3 VR และ NIKKOR Z DX 50–250mm f/4.5–6.3 VR โปรดทราบว่าการติดเลนส์เหล่านี้จะเป็นการปิดใช้งานตัวเลือก ชัตเตอร์แบบกลไก สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง d5 (ประเภทชัตเตอร์) ในกลุ่ม d (การถ่ายภาพ/แสดงผล) ของ เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง ทำให้เหลือตัวเลือกเฉพาะ อัตโนมัติ และ ม่านชัตเตอร์ชุดแรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ เท่านั้น • สามารถปรับ ค่าความไวแสง (ISO) ได้โดยใช้วงแหวนควบคุมเลนส์ และได้เพิ่ม ค่าความไวแสง (ISO) ลงในตัวเลือกที่ใช้ได้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง f2 (กำหนดการควบคุมเอง) > วงแหวนควบคุมเลนส์ ในกลุ่ม f (การควบคุม) ของ เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง • ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2019 รูรับแสงที่แสดงในแผงข้อมูลเลนส์สำหรับเลนส์ NIKKOR Z 24–70mm f/2.8 S และ NIKKOR Z 58mm f/0.95 S Noct จะแสดงทั้งค่ารูรับแสงในปัจจุบันและค่ารูรับแสงถัดไปในโหมด A และ M • เมื่อเลือก เปิด ไว้สำหรับ ควบคุมความไวแสงอัตโนมัติ และเลือกตัวเลือกที่ไม่ได้รวม “แฟลชสัมพันธ์ที่ความไวชัตเตอร์ต่ำ” ไว้สำหรับ โหมดแฟลช ก่อนหน้านี้ความไวชัตเตอร์ได้ถูกจำกัดไว้ระหว่างค่าที่เลือกไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง e1 (ความเร็วสัมพันธ์กับแฟลช) และ e2 (ความไวชัตเตอร์ของแฟลช) แต่ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงกับการทำงานของกล้องดิจิตอล SLR เป็นผลให้ขณะนี้ความไวชัตเตอร์ต่ำสุดจะสอดคล้องกับค่าที่เลือกไว้สำหรับ ควบคุมความไวแสงอัตโนมัติ > ความไวชัตเตอร์ต่ำสุด • แก้ไขปัญหาซึ่งเป็นกรณีที่เกิดได้น้อยมากที่ทำให้กล้องไม่สามารถบันทึกภาพยนตร์ได้อย่างถูกต้องเมื่อเลือก 1920x1080; 120p ไว้สำหรับ ขนาดเฟรม/อัตราเฟรม • แก้ไขปัญหาที่บางครั้งทำให้เกิด “สัญญาณรบกวน” ในรูปแบบของเส้นสีขาวที่ด้านล่างของจอแสดงผลเมื่อช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์เปิดอยู่ • แก้ไขปัญหาซึ่งเป็นกรณีที่เกิดได้น้อยซึ่งทำให้เกิด “สัญญาณรบกวน” ในรูปแบบของเส้นเล็กๆ ในแนวนอนที่ปรากฏทั้งกรอบภาพในจอแสดงผลภาพยนตร์และไลฟ์วิว • แก้ไขข้อผิดพลาดในโซนเวลา UTC สำหรับสามเมืองต่อไปนี้ใน โซนเวลาและวันที่ > โซนเวลา ที่แสดงใน เมนูตั้งค่า: การากัส: จากเดิม -4:30, เปลี่ยนเป็น -4:00 กาซาบล็องกา: จากเดิม 00:00, เปลี่ยนเป็น +1:00 อังการา: จากเดิม +2:00, เปลี่ยนเป็น +3:00 • แก้ไขปัญหาที่ทำให้วันที่ในการสร้างไม่ถูกต้องปรากฏขึ้นในกรอบโต้ตอบ “คุณสมบัติ” ของ Windows 10 สำหรับภาพยนตร์และภาพยนตร์เหลื่อมเวลาที่สร้างด้วยกล้อง รวมถึงสำเนาที่สร้างด้วยปุ่มควบคุมการตัดต่อภาพยนตร์ของกล้อง

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 2.00 ไปยัง 2.01

แก้ไขปัญหาต่อไปนี้: • หากกล้องตรวจพบใบหน้าในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งหรือการบันทึกภาพยนตร์ที่การตั้งค่าที่ระบุไว้ด้านล่าง ในบางกรณีซึ่งพบได้น้อยมาก กล้องจะเริ่มตอบสนองช้าลง แสดงข้อผิดพลาด หรือหยุดตอบสนองทั้งหมด การถ่ายภาพนิ่ง - เลือก AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ ไว้สำหรับ โหมดพื้นที่ AF ใน เมนูถ่ายภาพ - เลือก เปิดระบบหาใบหน้าและดวงตา หรือ เปิดระบบหาใบหน้า ไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง a4 (หาหน้า/ตาขณะ AF พื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ) ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง การบันทึกภาพยนตร์ - เลือก AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ ไว้สำหรับ โหมดพื้นที่ AF ใน เมนูถ่ายภาพยนตร์ - เลือก เปิดระบบหาใบหน้าและดวงตา หรือ เปิดระบบหาใบหน้า ไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง a4 (หาหน้า/ตาขณะ AF พื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ) ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง • ในบางกรณีซึ่งพบได้น้อยมาก ด้านล่างของภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยการตั้งค่าต่อไปนี้จะไม่ปรากฏตามที่คาดไว้: - แป้นหมุนเลือกโหมดถูกหมุนไปที่ AUTO, P หรือ A - เลือกตัวเลือก NEF (RAW) ไว้สำหรับ คุณภาพของภาพ ใน เมนูถ่ายภาพ - เลือก 14 บิท ไว้สำหรับ การบันทึก NEF (RAW) > ความลึกบิทสีของ NEF (RAW) ใน เมนูถ่ายภาพ - เลือก อัตโนมัติ ไว้สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง d5 (ประเภทชัตเตอร์) ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง - โหมดลั่นชัตเตอร์ ถ่ายต่อเนื่องเร็ว (เพิ่มจำนวนภาพ) ที่เลือกด้วยปุ่มโหมดลั่นชัตเตอร์/ตั้งเวลาถ่าย

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 1.01 ไปยัง 2.00

• เพิ่ม AF หาตาสำหรับการใช้งานเมื่อถ่ายภาพ ในการเปิดใช้งาน AF หาตา โปรดเลือก: - AF-S หรือ AF-C สำหรับ โหมดโฟกัส ใน เมนูถ่ายภาพ - AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ สำหรับ โหมดพื้นที่ AF ใน เมนูถ่ายภาพ - เปิดระบบหาใบหน้าและดวงตา สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง a4 (หาหน้า/ตาขณะ AF พื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ) ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง หากกล้องตรวจพบใบหน้าของบุคคลในวัตถุภาพบุคคล ใบหน้าจะถูกล้อมรอบด้วยเส้นขอบสีเหลืองอำพันที่ระบุจุดโฟกัส หากตรวจพบดวงตาของวัตถุ เส้นขอบสีเหลืองอำพันที่ระบุจุดโฟกัสจะปรากฏรอบดวงตาทั้งสองข้าง หากกล้องตรวจพบมากกว่าหนึ่งใบหน้าหรือดวงตา จะมีสามเหลี่ยมปรากฏที่ด้านข้างของจุดโฟกัส; หากต้องการวางตำแหน่งโฟกัสบนใบหน้าหรือดวงตาที่แตกต่างกัน ให้กดปุ่มเลือกคำสั่งหรือปุ่มเลือกคำสั่งย่อยทางซ้ายหรือขวา • ปรับปรุงประสิทธิภาพการโฟกัสอัตโนมัติสำหรับภาพถ่ายและภาพยนตร์ที่ถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย: -3.5 – 19 EV (โฟกัสอัตโนมัติในที่ที่มีแสงน้อย -6 – 19 EV) วัดในโหมดภาพถ่ายด้วย AF ทีละภาพ (AF-S) ที่ ISO 100 และ 20°C ด้วยเลนส์ f/2 • การปรับปรุงต่อไปนี้กับตัวเลือก ถ่ายต่อเนื่องเร็ว (เพิ่มจำนวนภาพ) สำหรับ โหมดลั่นชัตเตอร์: - ไม่เพียงแค่โฟกัสเท่านั้นแต่ตอนนี้ค่าแสงจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของวัตถุขณะถ่ายภาพ - การแสดงผลการถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นชุดหลังจากหน่วยความจำบัฟเฟอร์เต็มอ่านง่ายขึ้น • ลดระยะเวลาที่จอแสดงผลจะปิด (ช่วงมืดสนิท) เมื่อถ่ายภาพด้วยการเลือก เปิด หรือ เปิด (เฉพาะจอภาพ) ไว้สำหรับ แสดงภาพทันทีที่ถ่าย ใน เมนูแสดงภาพ • รายการ d5 ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง จากเดิมคือ ม่านชัตเตอร์ชุดแรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ประเภทชัตเตอร์ และมีตัวเลือก อัตโนมัติ, ชัตเตอร์แบบกลไก และ ม่านชัตเตอร์ชุดแรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ หากเลือก อัตโนมัติ กล้องจะเลือกประเภทชัตเตอร์ตามความไวชัตเตอร์โดยอัตโนมัติ • เปลี่ยนสีจุดโฟกัสที่จะเปลี่ยนเมื่อกดปุ่ม AF-ON หรือกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งด้วยการเลือก AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ และระบบหาใบหน้าหรือการติดตามเป้าหมายทำงานอยู่ • แก้ไขและปรับปรุงข้อความช่วยเหลือ • แก้ไขปัญหาต่อไปนี้แล้ว: - กล้องจะหยุดตอบสนองหากการดำเนินการบางอย่างเกิดขึ้นในขณะที่กำลังใช้งานสัญญาณออก HDMI โดยเลือก 3840 x 2160 (4K UHD) สำหรับขนาดเฟรม - ค่าที่เลือกไว้สำหรับความไวแสงสูงสุดบางครั้งจะเกินที่กำหนดระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ในโหมด M ด้วยการเลือก เปิด ไว้สำหรับ ควบคุมความไวแสงอัตโนมัติ (โหมด M) หาก Active D-Lighting เปิดใช้งานอยู่ - รายการในเมนูของฉันบางครั้งจะแสดงไม่ถูกต้อง

การเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ “C” 1.00 ไปยัง 1.01

• เมื่อเลือก เปิด สำหรับ HDMI > ขั้นสูง > การตั้งค่า N-Log ใน เมนูตั้งค่า ความไวแสงสูงสุด จะมีผลในระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ หากว่า: - กล้องอยู่ในโหมด P (โปรแกรมอัตโนมัติ), S (อัตโนมัติปรับชัตเตอร์เอง) หรือ A (อัตโนมัติปรับรูรับแสง) หรือ - กล้องอยู่ในโหมด M (ปรับเอง) และเมื่อเลือก เปิด สำหรับ ตั้งค่าความไวแสง (ISO) > ควบคุมความไวแสงอัตโนมัติ (โหมด M) ใน เมนูถ่ายภาพยนตร์ • แก้ไขปัญหาที่ส่งผลให้ซอฟต์แวร์ที่มาจากแหล่งอื่นแสดงค่าระยะทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับรูปแบบ Exif 35 มม. ไม่ถูกต้องสำหรับภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ชนิดไม่มี CPU ที่เชื่อมต่อผ่านเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ ด้วยทางยาวโฟกัสที่ระบุโดยใช้รายการ ข้อมูลเลนส์ที่ไม่มี CPU ใน เมนูตั้งค่า • แก้ไขปัญหาที่ส่งผลให้ภาพที่ถ่ายด้วยชุดแฟลชเสริมภายนอกมีแสงมากเกินไปหากกล้องจับภาพใบหน้าได้ในโหมดแฟลชซึ่งจะเลือก AF แบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ สำหรับ โหมดพื้นที่ AF • แก้ไขปัญหาที่ส่งผลให้รูรับแสงที่เลือกในโหมด P (โปรแกรมอัตโนมัติ) ไม่ถูกต้องเมื่อเชื่อมต่อแฟลชกับกล้องภายใต้เงื่อนไขที่จะเลือก f/32 ตามปกติ • แก้ไขปัญหาที่ทำให้แฟลชที่ควบคุมด้วยการควบคุมการทำงานแฟลชแบบไร้สายด้วยวิทยุไม่สามารถซิงค์ที่ความไวชัตเตอร์ 1/100 วินาทีหรือเร็วกว่า เมื่อ: - เลือก เปิด สำหรับ ลดการกะพริบขณะถ่ายภาพ ใน เมนูถ่ายภาพ และ - เลือก เปิดใช้ สำหรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง d5 (ม่านชัตเตอร์ชุดแรกแบบอิเล็กทรอนิกส์) ใน เมนูการตั้งค่าแบบกำหนดเอง

การดูเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ของกล้องถ่ายรูป

1. เปิดกล้อง
2. กดปุ่ม MENU ของกล้อง แล้วเลือก [รุ่นเฟิร์มแวร์] ใน [เมนูตั้งค่า] เพื่อแสดงเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ของกล้องถ่ายรูป
3. ตรวจสอบเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ของกล้อง
4. ปิดกล้อง